ปรัชญาชีวิตแบบไทย
ฝรั่งในเมืองไทย - ฝรั่งมองเมืองไทยอย่างไร
สวย(งาม)สะดวก สบาย สนุก(สนาน)
หนึ่งในแนวคิดพื้นฐานของศาสนาพุทธที่ว่าชีวิตคือความทุกข์ สุข นั้น ไม่ได้ถูกนำมาใช้แบบตรงตัวในประเทศไทย แม้ว่า 95% ของประชากรไทยจะนับถือคำสอนของพระพุทธเจ้า และสวดมนต์ถวายเครื่องบูชาทุกวัน แต่ความเชื่อนี้ในประเทศไทยก็มีความเกี่ยวข้องกับคำสอนดั้งเดิมของพระพุทธเจ้า พอ ๆ กับที่ศาสนาคริสต์เกี่ยวข้องกับคำสอนของพระเยซู คนไทยมักปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างมีความเป็นจริงมากกว่า คือ ทำแบบสบาย ๆ และผ่อนคลาย เขามีความสุขกับชีวิต แสวงหาความงดงาม ความสะดวกสบาย และความเพลิดเพลิน เป็นเรื่องจริงที่ว่าการเกิดและความตายนั้นคือความทุกข์ แต่ชีวิตคือที่นี้และตอนนี้ ณ ขณะนี้ การทนทุกข์เพื่อไปสู่นิพพานยังมีเวลาอีกมากในภายหลัง และยังห่างไกลออกไปอีกไกล
ไม่มีสิ่งใดที่คนไทยชื่นชอบไปมากกว่าความงดงาม – สวย (Suay) ความสะดวก – สบาย (Sabai) และความสนุกสนาน – สนุก (Sanuk).
การรักษาหน้าในประเทศไทยนั้น รวมไปถึงการที่เราต้องดูดีอยู่เสมอ แต่งกายอย่างเรียบร้อย และออกไปข้างนอกอย่างสะอาดตา ความสวยงามเป็นสิ่งที่น่าพึงพอใจทั่วทั้งโลกก็จริง แต่ในประเทศไทยมันมีความหมายมากกว่านั้น ผู้ที่แต่งตัวสวยงามและสะอาดตา ผูกเนกไทที่คอ ไม่เพียงแสดงถึงความสุภาพเท่านั้น การรู้จักการเทสะ แต่ก็ยังบ่งบอกถึงอำนาจและตำแหน่งอีกด้วย
ไม่มีข้าราชการไทยคนไหน ที่ถึงแม้อากาศจะร้อนระอุเพียงใด ก็จะไม่สวมเสื้อสูททำงาน
ไม่มีสิ่งใดที่คนไทยชื่นชอบไปมากกว่าความงดงาม – สวย (Suay) ความสะดวก – สบาย (Sabai) และความสนุกสนาน – สนุก (Sanuk).
การรักษาหน้าในประเทศไทยนั้น รวมไปถึงการที่เราต้องดูดีอยู่เสมอ แต่งกายอย่างเรียบร้อย และออกไปข้างนอกอย่างสะอาดตา ความสวยงามเป็นสิ่งที่น่าพึงพอใจทั่วทั้งโลกก็จริง แต่ในประเทศไทยมันมีความหมายมากกว่านั้น ผู้ที่แต่งตัวสวยงามและสะอาดตา ผูกเนกไทที่คอ ไม่เพียงแสดงถึงความสุภาพเท่านั้น การรู้จักการเทสะ แต่ก็ยังบ่งบอกถึงอำนาจและตำแหน่งอีกด้วย
ไม่มีข้าราชการไทยคนไหน ที่ถึงแม้อากาศจะร้อนระอุเพียงใด ก็จะไม่สวมเสื้อสูททำงาน
แม้แต่ชาวไทยที่ยากจนที่สุดก็ยังใส่ใจว่า เมื่อออกจากบ้าน เสื้อผ้าที่เก่าหรือซอมซ่อของตนจะต้องสะอาดและเรียบร้อยเสมอ หากคุณพบคนไทยบนถนน คุณแทบไม่อาจเชื่อได้เลยว่าเครื่องแต่งกายที่ดูสุภาพนั้น อาจซ่อนชีวิตที่ยากจนหรือย่ำแย่อยู่เบื้องหลัง ร่างกายที่ไม่ได้อาบน้ำ กางเกงวอร์มที่สกปรกหรือเปื้อนอุจจาระ หรือการเดินเปลือยกายครึ่งท่อน แสดงถึงการไม่ให้เกียรติผู้อื่นที่ต้องทนมองภาพเหล่านั้น บางทีอาจไม่มีประเทศใดในโลกที่สุภาษิต “ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง” จะใช้ได้จริงมากไปกว่าที่ประเทศไทย
(คุณรู้หรือไม่ว่า หากเดินบนถนนในประเทศไทยโดยที่ไม่สวมกางเกงชั้นในใต้กระโปรงหรือกางเกง อาจถูกลงโทษได้?)
การได้เห็นคนที่แต่งกายดี สะอาด และดูดี ทำให้ทุกคนรู้สึกมีความสุข ซึ่งสำหรับคนไทยแล้ว นี่ถือเป็นหนึ่งในเสาหลักที่สำคัญที่สุดของปรัชญาการใช้ชีวิตแบบไทยๆ ในการเลือกซื้อของสักชิ้น สิ่งที่สำคัญอาจไม่ใช่ประโยชน์ใช้สอย แต่กลับเป็นรูปลักษณ์ภายนอกมากกว่า เช่น เสื้อโค้ทกันหนาวแบบฝรั่งที่ไม่มีวันได้ใส่จริงในอากาศร้อนของเมืองไทย แต่เพราะสีสวยและดูดีเมื่อแขวนอยู่บนราว ก็ต้องซื้อมาไว้
หากคุณนำของขวัญไปมอบให้ครอบครัวคนไทย (ซึ่งควรมอบด้วยสองมือ ไม่ใช่มือซ้าย) คุณจะพบอย่างน่าประหลาดใจว่า ของขวัญที่ห่อสวยที่สุดมักจะเป็นของที่พวกเขาชอบที่สุด ไม่ใช่เนื้อหาข้างใน แต่เป็นห่อที่ระยิบระยับสวยงามต่างหาก พวกเขาแทบจะไม่แกะออกมาเลย เพียงลูบห่อของขวัญอย่างชื่นชม แล้วเก็บกล่องนั้นลงตู้โดยไม่เอ่ยคำขอบคุณ เรื่องเล่านี้เป็นจริง — คนไทยดูโฆษณาทางโทรทัศน์ไม่ใช่เพราะมันน่าสนใจ แต่เพราะภาพนั้นสวยงามต่างหาก
สบาย หมายถึง ความสะดวกสบาย ทิ้งตัวลงบนโซฟา เหยียดขาขึ้น แล้วเพลิดเพลินกับชีวิต เราอาจกล่าวได้ว่าชีวิตของเราควรจะสบายในทุกสถานการณ์ เพื่อแสดงถึงความรู้สึกผ่อนคลายและความพึ่งพอใจ
เมื่อคนไทยถามเราว่า – สบายดีไหม? – เขาไม่ได้ถามว่าเราสุขภาพเป็นอย่างไร แต่ถามว่าเรารู้สึกสบายหรือเปล่า คำตอบก็คล้ายกัน – “สบายดี” – คือสบายดี รู้สึกสะดวกสบาย
ในประเทศไทย อากาศไม่ได้ถูกบรรยายว่า ดี หรือ น่าอยู่ แต่จะพูดว่า – “เย็นสบาย” – หมายถึงอากาศสบาย น่าอยู่
(คุณรู้หรือไม่ว่า หากเดินบนถนนในประเทศไทยโดยที่ไม่สวมกางเกงชั้นในใต้กระโปรงหรือกางเกง อาจถูกลงโทษได้?)
การได้เห็นคนที่แต่งกายดี สะอาด และดูดี ทำให้ทุกคนรู้สึกมีความสุข ซึ่งสำหรับคนไทยแล้ว นี่ถือเป็นหนึ่งในเสาหลักที่สำคัญที่สุดของปรัชญาการใช้ชีวิตแบบไทยๆ ในการเลือกซื้อของสักชิ้น สิ่งที่สำคัญอาจไม่ใช่ประโยชน์ใช้สอย แต่กลับเป็นรูปลักษณ์ภายนอกมากกว่า เช่น เสื้อโค้ทกันหนาวแบบฝรั่งที่ไม่มีวันได้ใส่จริงในอากาศร้อนของเมืองไทย แต่เพราะสีสวยและดูดีเมื่อแขวนอยู่บนราว ก็ต้องซื้อมาไว้
หากคุณนำของขวัญไปมอบให้ครอบครัวคนไทย (ซึ่งควรมอบด้วยสองมือ ไม่ใช่มือซ้าย) คุณจะพบอย่างน่าประหลาดใจว่า ของขวัญที่ห่อสวยที่สุดมักจะเป็นของที่พวกเขาชอบที่สุด ไม่ใช่เนื้อหาข้างใน แต่เป็นห่อที่ระยิบระยับสวยงามต่างหาก พวกเขาแทบจะไม่แกะออกมาเลย เพียงลูบห่อของขวัญอย่างชื่นชม แล้วเก็บกล่องนั้นลงตู้โดยไม่เอ่ยคำขอบคุณ เรื่องเล่านี้เป็นจริง — คนไทยดูโฆษณาทางโทรทัศน์ไม่ใช่เพราะมันน่าสนใจ แต่เพราะภาพนั้นสวยงามต่างหาก
สบาย หมายถึง ความสะดวกสบาย ทิ้งตัวลงบนโซฟา เหยียดขาขึ้น แล้วเพลิดเพลินกับชีวิต เราอาจกล่าวได้ว่าชีวิตของเราควรจะสบายในทุกสถานการณ์ เพื่อแสดงถึงความรู้สึกผ่อนคลายและความพึ่งพอใจ
เมื่อคนไทยถามเราว่า – สบายดีไหม? – เขาไม่ได้ถามว่าเราสุขภาพเป็นอย่างไร แต่ถามว่าเรารู้สึกสบายหรือเปล่า คำตอบก็คล้ายกัน – “สบายดี” – คือสบายดี รู้สึกสะดวกสบาย
ในประเทศไทย อากาศไม่ได้ถูกบรรยายว่า ดี หรือ น่าอยู่ แต่จะพูดว่า – “เย็นสบาย” – หมายถึงอากาศสบาย น่าอยู่
คำว่า สบาย สบาย (Sabai Sabai) มีน้ำหนักมากกว่า “สบาย” ธรรมดา แปลว่า สบายกว่า ผ่อนคลายกว่า เพลิดเพลินกว่า
แม้ว่าอะไรจะผิดพลาดไปบ้าง หรือปัญหาจะกวนใจ คนไทยก็มักจะพยายามรักษาความสบายใจและความสงบไว้เสมอ ใครที่เคยไปเมืองไทย คงเคยเห็นคนไทยนั่งหรือนอนตามพื้น บนแท็กซี่ บนม้านั่ง หรือในสวนสาธารณะ ในท่าทางที่แทบไม่น่าเชื่อ โดยไม่รู้สึกเก้อเขินเลย นั่นแหละคือ สบาย สบาย
ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร บนฝุ่น บนปูน หรือแม้กระทั่งบนมอเตอร์ไซค์ ขอเพียงมีเงาเล็กน้อยให้นอนได้ ก็ถือว่าสบายแล้ว หลักการคือให้ชีวิตเป็นเรื่องง่ายและน่าอยู่เสมอ
ทำไมต้องทำงานหนัก ในเมื่อพระอาทิตย์กำลังส่องแสงสดใส และยังสามารถสนุกได้? ถ้าวันหนึ่งมีการแข่งขันโอลิมปิกในประเภท “ใครนอนหลับได้นานที่สุด” รับรองได้เลยว่าคนไทยจะคว้าเหรียญทองไปอย่างไม่ยากและง่ายดาย และเพื่อมอบเหรียญก็อาจต้องใช้ระฆังใบใหญ่ๆปลุกผู้ชนะให้ตื่นขึ้นมา!
การทำงานไม่น่าสนุกอยู่แล้ว และการทำงานคนเดียวยิ่งไม่น่าสนุกเข้าไปใหญ่ ยกตัวอย่าง บางครั้งที่ไซต์ก่อสร้าง จำเป็นต้องเรียกคนไทยสี่คนมาช่วยกันเอาถังน้ำ
คนไทยคนแรก คลานไปหาเพื่อนร่วมงานที่กำลังหลับอย่างขยันขันแข็งพร้อมถังเปล่า เพื่อนคนนั้นก็เอาถังเปล่าไปให้คนงานอีกคนหนึ่ง ซึ่งหลังจากสักพักหยุดแคะจมูกก็เปิดก๊อกน้ำ
เมื่อคนที่สี่เล่น Pokémon จนสนุกพอแล้ว เขาก็หยิบถังน้ำเต็มมา และใช้รถโฟล์คลิฟต์ขนไปยังที่ที่สั่งไว้
ระหว่างนั้น พวกเขาก็ร้องเพลงและเต้นรำ ทำให้งานที่หนักหน่วงกลายเป็น สนุก (Sanuk) ได้เสมอ
แม้ว่าอะไรจะผิดพลาดไปบ้าง หรือปัญหาจะกวนใจ คนไทยก็มักจะพยายามรักษาความสบายใจและความสงบไว้เสมอ ใครที่เคยไปเมืองไทย คงเคยเห็นคนไทยนั่งหรือนอนตามพื้น บนแท็กซี่ บนม้านั่ง หรือในสวนสาธารณะ ในท่าทางที่แทบไม่น่าเชื่อ โดยไม่รู้สึกเก้อเขินเลย นั่นแหละคือ สบาย สบาย
ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร บนฝุ่น บนปูน หรือแม้กระทั่งบนมอเตอร์ไซค์ ขอเพียงมีเงาเล็กน้อยให้นอนได้ ก็ถือว่าสบายแล้ว หลักการคือให้ชีวิตเป็นเรื่องง่ายและน่าอยู่เสมอ
ทำไมต้องทำงานหนัก ในเมื่อพระอาทิตย์กำลังส่องแสงสดใส และยังสามารถสนุกได้? ถ้าวันหนึ่งมีการแข่งขันโอลิมปิกในประเภท “ใครนอนหลับได้นานที่สุด” รับรองได้เลยว่าคนไทยจะคว้าเหรียญทองไปอย่างไม่ยากและง่ายดาย และเพื่อมอบเหรียญก็อาจต้องใช้ระฆังใบใหญ่ๆปลุกผู้ชนะให้ตื่นขึ้นมา!
การทำงานไม่น่าสนุกอยู่แล้ว และการทำงานคนเดียวยิ่งไม่น่าสนุกเข้าไปใหญ่ ยกตัวอย่าง บางครั้งที่ไซต์ก่อสร้าง จำเป็นต้องเรียกคนไทยสี่คนมาช่วยกันเอาถังน้ำ
คนไทยคนแรก คลานไปหาเพื่อนร่วมงานที่กำลังหลับอย่างขยันขันแข็งพร้อมถังเปล่า เพื่อนคนนั้นก็เอาถังเปล่าไปให้คนงานอีกคนหนึ่ง ซึ่งหลังจากสักพักหยุดแคะจมูกก็เปิดก๊อกน้ำ
เมื่อคนที่สี่เล่น Pokémon จนสนุกพอแล้ว เขาก็หยิบถังน้ำเต็มมา และใช้รถโฟล์คลิฟต์ขนไปยังที่ที่สั่งไว้
ระหว่างนั้น พวกเขาก็ร้องเพลงและเต้นรำ ทำให้งานที่หนักหน่วงกลายเป็น สนุก (Sanuk) ได้เสมอ
ฉันยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับความคิดเห็น คำวิจารณ์ และความคิดเห็นต่างๆ ฉันอยากให้ทุกคนมีส่วนร่วมมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ดังนั้นฉันจึงขอให้คุณช่วยแชร์เพจนี้และช่วยหาผู้ที่สนใจให้มากขึ้น
https://www.facebook.com/groups/1071361535086444




Nincsenek megjegyzések:
Megjegyzés küldése